วันพฤหัสบดีที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เที่ยวพิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

พระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา



           วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร 
ตั้งอยู่เลขที่ ๖๖๑ ทางทิศตะวันตกของสถานีรถไฟหัวลำโพง ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร ๑๐๑๐๐

        วัดไตรมิตรวิทยาราม  เป็นวัดโบราณสร้างเมื่อสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐาน เดิมมีชื่อว่า วัดสามจีนใต้ มีคำเล่ากันว่าวัดสามจีน เดิมมีอยู่สามวัด คือ วัดสามจีนอยู่ในคลองบางอ้อด้านตรงข้ามกับเทเวศร์วัดหนึ่ง วัดสามจีนเหนือ บางท่านก็ว่าอยู่ที่บางขุนพรหม บางที่ก็ว่าอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี สำหรับวัดที่อยู่บางขุนพรหม คือ วัดสังเวชวิศยาราม ส่วนที่อยู่จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ วัดโชติการาม อำเภอเมืองนนทบุรี และวัดสามจีนใต้ ได้แก่ วัดไตรมิตรวิทยาราม









พิพิธภัณฑ์วัดไตรมิตร



ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช

            ตั้งอยู่บริเวณชั้น 2 ของพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา รูปแบบการนำเสนอ เป็นการนำเสนอเรื่องราวของชาวจีนที่อพยพมาที่ประเทศไทย และความเจริญรุ่งเรืองของถนนเยาวราช โดยพิพิธภัณฑ์จะแบ่งนำเสนอเรื่องราวเป็น 6 ส่วน


1. เติบใหญ่ใต้พระบารมี

           ฟังฟังคำบอกเล่าจากอากงชาวเยาวราช เพื่อทำความรู้จักเบื้องต้นกับชุมชนชาวจีนสำเพ็ง - เยาวราช อันเป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่สำคัญของกรุงเทพฯ ซึ่งเติบโตขึ้นจากการก่อร่างสร้างตัวของชาวจีนที่เข้ามาทำมาหากินในเมืองไทย โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระมหากษัตริย์ไทยตลอดมา
 *หมายเหตุ ส่วนนี้ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป


2. กำเนิดชุมชนจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. ๒๓๒๕ - ๒๓๙๔)




         บอกเล่าถึงจุดกำเนิดของชุมชนจีนที่สำเพ็ง และการเข้ามาของชาวจีนโพ้นทะเลในช่วงสมัยรัชกาลที่ 1-3 จนกระทั่งสำเพ็งกลายเป็นย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ ในยุคนั้น สัมผัสประสบการณ์การเดินทางด้วยเรือสำเภาหัวแดงจากเมืองจีนสู่ผืนแผ่นดินไทย และเดินเข้าสู่ตลาดสำเพ็ง สมัยรัชกาลที่ 3 ที่จำลองขึ้นใหม่ในบรรยากาศเสมือนจริง












3. เส้นทางสู่ยุคทอง (พ.ศ. ๒๓๙๔ - ๒๕๐๐)

           จัดแสดงพัฒนาการของชุมชนจีนจากตลาดสำเพ็งสู่ความเป็นย่านธุรกิจสมัยใหม่ที่ถนนเยาวราช สัมผัสบรรยากาศภายในสำนักงานบริษัทค้าข้าวที่ถนนทรงวาดสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นความเจริญรุ่งเรืองของย่านการค้าเยาวราช แล้วชมโมเดลขนาดใหญ่ที่จำลองถนนเยาวราชในยุคเฟื่องฟูที่สุดช่วง พ.ศ. 2500 ซึ่งเยาวราชเป็นย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงที่ทันสมัยที่สุดของกรุงเทพฯ ทั้งยังเป็นที่ตั้งของตึกสูงที่สุดของประเทศถึง 3 ตึก โดยรอบโมเดลยังมี Diorama 11 ฉากที่แสดงเรื่องราววิถีชีวิตที่ช่วยให้เกิดความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อวิถีทางสังคมของชาวเยาวราชในยุคนั้น











4. ตำนานชีวิต


       
        Hall of Fame ประกอบวีดิทัศน์แสดงตำนานชีวิตของบุคคลชาวเยาวราชที่เป็นแบบอย่างและสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นหลัง ในการก่อร่างสร้างตัวจากมือเปล่าสู่ความเป็นเจ้าสัว และเผื่อแผ่ดอกผลจากความสำเร็จของตนกลับคืนสู่สังคม หลายคนได้สร้างคุณประโยชน์อันใหญ่หลวงตอบแทนให้กับประเทศไทย


5. พระบารมีปกเกล้า




         แกลเลอรี่ภาพถ่ายและวีดิทัศน์จัดแสดงเรื่องพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ในรัชกาลปัจจุบันต่อชุมชนเยาวราช และพระราชกรณียกิจมากมายที่เชื่อมประสานสายสัมพันธ์สองแผ่นดินไทย - จีนให้แนบแน่น



6. เยาวราชในวันนี้











        นำเสนอภาพลักษณ์ที่โดดเด่น 4 แง่มุมของเยาวราชที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ไชน่าทาวน์” ของกรุงเทพฯ ได้แก่ ถนนสายทองคำ ย่านตลาดใหญ่ที่สุดของประเทศ แหล่งวัฒนธรรมประเพณีจีน และแห่งรวมอาหารอร่อย นอกจากนี้ยังมีคอมพิวเตอร์ทัชสกรีนเพื่อสืบค้นข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในย่านเยาวราช






ที่มา : ขอขอบคุณ www.goldenbuddha-thailand.com ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น